เข้าระบบ
สมัครสมาชิก
ลงประกาศฟรี
ติดต่อเรา
Toggle navigation
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบสมาชิก
×
เข้าสู่ระบบ
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ครบเครื่องเรื่องมวยไทย วิเคราะห์ข่าวมวยไทย
ลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ฟรี
NT ซื้อซองประมูลดาวเทียมในวันสุดท้าย/แค่คู่เทียบหรือหวังประมูลจริง
ผู้โพส! :
Joe524
ดูรายละเอียดผู้โพส!
ข่าวใหม่ล่าสุด
ไฟเขียวเมื่อไหร่ จัดชิงปูนเมื่อนั้น...
รายการใกล้เคียง
ขายที่ติดแม่น้ำบางปะ...
ขายที่ดิ...
ให้เช่าคอนโดThe Next...
ให้เช่าคอนโดThe Next Sukhumvit...
NT ซื้อซองประมูลดาวเทียมในวันสุดท้าย/แค่คู่เทียบหรือหวังประมูลจริง
0 ตอบ
230 อ่าน
«
Joe524
»เมื่อ:
10 สิงหาคม 2564, 02:29 »
จากมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 ได้กำหนดการใหม่สำหรับการประมูลการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package)
หลังจาก สำนักงาน กสทช.ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกฯ ในวันที่ 5 ก.ค.2564 มี บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ถือหุ้น 100% เข้ามายื่นเอกสารเข้าร่วมการคัดเลือกเพียงรายเดียว
ทำให้หลังจากนั้นสำนักงาน กสทช.จึงเปิดให้ผู้สนใจรับเอกสารการคัดเลือกเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.-6 ส.ค.2564 ผลปรากฏว่า มีบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามารับเอกสารการคัดเลือกเพิ่มเติม ในวันที่ 6 ส.ค.2564 เวลา 16.20 น.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ผู้ที่สนใจขอรับเอกสารการคัดเพิ่มเติม อีกเพียงรายเดียวเท่านั้น
ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไป จะมีการจัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงกระบวนการประมูลและกรอกแบบคำขอรับอนุญาต(public information session) วันนี้ (9 ส.ค.2564) จากนั้นผู้ประสงค์ขอรับอนุญาตยื่นคำขอรับอนุญาตและวางหลักประกันการขอรับอนุญาต วันที่ 11 ส.ค.2564 โดยในขั้นตอนนี้ บริษัท มิวสเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัดสามารถเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาตฯ ได้ หลังจากมาขอรับเอกสารการคัดเลือกในรอบแรก และต้องรอดูว่า NT จะเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาตฯ หรือไม่ ก่อนที่ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเป็นผู้เข้าร่วมการคัดเลือก วันที่ 18 ส.ค.2564
จากนั้นประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการคัดเลือกที่ผ่านเกณฑ์ข้อเสนอด้านประสบการณ์และความสามารถด้านการเงินเพื่อเป็นผู้เข้าร่วมการประมูล วันที่ 24 ส.ค.2564, จัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงขั้นตอนการประมูล (bidder information session) และการประมูลรอบสาธิต (mock auction) วันที่ 25 ส.ค.2564 และประมูล วันที่ 28 ส.ค.2564
สำหรับชุดข่ายงานดาวเทียมทั้ง 4 ชุด ที่จะนำมาประมูลในครั้งนี้ ได้แก่ ชุดที่ 1 ประกอบด้วย วงโคจร 50.5E (ข่ายงานC1, N1 และ P1R) และ วงโคจร 51E (ข่ายงาน 51) ราคาขั้นต่ำ 676.914 ล้านบาท, ชุดที่ 2 ประกอบด้วย วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ 78.5E) ราคาขั้นต่ำ 366.488 ล้านบาท
ชุดที่ 3 ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ 119.5E) และ วงโคจร 120E (ข่ายงาน 120E) ราคาขั้นต่ำ392.950 ล้านบาท และชุดที่ 4 ประกอบด้วย วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) และ วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และN5) ราคาขั้นต่ำ 364.687 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก กสทช.ยืนยันว่า แม้ว่าในวันที่ 11 ส.ค. 2564 จะไม่มีใครมายื่นเอกสารประมูลดาวเทียมเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มีเพียงไทยคมรายเดียวที่ได้ยื่นประมูลก่อนหน้านี้ กสทช.ก็ต้องเดินหน้าประมูลในวันที่ 28 ส.ค.2564 โดยยึดมาตรฐานเหมือนการประมูลคลื่นโทรคมนาคมที่มีการขยายเวลาและเดินหน้าประมูลต่อ
อีกทั้ง กสทช.มีหน้าที่ ต้องรักษาวงโคจรของประเทศซึ่งวงโคจรต้องมีดาวเทียมใช้งาน หากประเทศไทยถูก ITU ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้มีการใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมที่ได้รับจริงภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือไม่ได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง (ไม่มีการใช้คลื่นความถี่บนดาวเทียมจริง) ย่อมมีโอกาสเกิดความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกยกเลิกสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและคลื่นความถี่ที่ไม่มีการใช้งานจริง ออกจากทะเบียนความถี่หลักระหว่างประเทศได้ (Master International Frequency Register) และส่งผลให้ประเทศไทยสิ้นสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมนั้น
จากมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 ได้กำหนดการใหม่สำหรับการประมูลการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package)
หลังจาก สำนักงาน กสทช.ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกฯ ในวันที่ 5 ก.ค.2564 มี บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ถือหุ้น 100% เข้ามายื่นเอกสารเข้าร่วมการคัดเลือกเพียงรายเดียว
ทำให้หลังจากนั้นสำนักงาน กสทช.จึงเปิดให้ผู้สนใจรับเอกสารการคัดเลือกเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.-6 ส.ค.2564 ผลปรากฏว่า มีบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามารับเอกสารการคัดเลือกเพิ่มเติม ในวันที่ 6 ส.ค.2564 เวลา 16.20 น.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ผู้ที่สนใจขอรับเอกสารการคัดเพิ่มเติม อีกเพียงรายเดียวเท่านั้น
ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไป จะมีการจัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงกระบวนการประมูลและกรอกแบบคำขอรับอนุญาต(public information session) วันนี้ (9 ส.ค.2564) จากนั้นผู้ประสงค์ขอรับอนุญาตยื่นคำขอรับอนุญาตและวางหลักประกันการขอรับอนุญาต วันที่ 11 ส.ค.2564 โดยในขั้นตอนนี้ บริษัท มิวสเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัดสามารถเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาตฯ ได้ หลังจากมาขอรับเอกสารการคัดเลือกในรอบแรก และต้องรอดูว่า NT จะเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาตฯ หรือไม่ ก่อนที่ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเป็นผู้เข้าร่วมการคัดเลือก วันที่ 18 ส.ค.2564
จากนั้นประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการคัดเลือกที่ผ่านเกณฑ์ข้อเสนอด้านประสบการณ์และความสามารถด้านการเงินเพื่อเป็นผู้เข้าร่วมการประมูล วันที่ 24 ส.ค.2564, จัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงขั้นตอนการประมูล (bidder information session) และการประมูลรอบสาธิต (mock auction) วันที่ 25 ส.ค.2564 และประมูล วันที่ 28 ส.ค.2564
สำหรับชุดข่ายงานดาวเทียมทั้ง 4 ชุด ที่จะนำมาประมูลในครั้งนี้ ได้แก่ ชุดที่ 1 ประกอบด้วย วงโคจร 50.5E (ข่ายงานC1, N1 และ P1R) และ วงโคจร 51E (ข่ายงาน 51) ราคาขั้นต่ำ 676.914 ล้านบาท, ชุดที่ 2 ประกอบด้วย วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ 78.5E) ราคาขั้นต่ำ 366.488 ล้านบาท
ชุดที่ 3 ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ 119.5E) และ วงโคจร 120E (ข่ายงาน 120E) ราคาขั้นต่ำ392.950 ล้านบาท และชุดที่ 4 ประกอบด้วย วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) และ วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และN5) ราคาขั้นต่ำ 364.687 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก กสทช.ยืนยันว่า แม้ว่าในวันที่ 11 ส.ค. 2564 จะไม่มีใครมายื่นเอกสารประมูลดาวเทียมเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มีเพียงไทยคมรายเดียวที่ได้ยื่นประมูลก่อนหน้านี้ กสทช.ก็ต้องเดินหน้าประมูลในวันที่ 28 ส.ค.2564 โดยยึดมาตรฐานเหมือนการประมูลคลื่นโทรคมนาคมที่มีการขยายเวลาและเดินหน้าประมูลต่อ
อีกทั้ง กสทช.มีหน้าที่ ต้องรักษาวงโคจรของประเทศซึ่งวงโคจรต้องมีดาวเทียมใช้งาน หากประเทศไทยถูก ITU ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้มีการใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมที่ได้รับจริงภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือไม่ได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง (ไม่มีการใช้คลื่นความถี่บนดาวเทียมจริง) ย่อมมีโอกาสเกิดความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกยกเลิกสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและคลื่นความถี่ที่ไม่มีการใช้งานจริง ออกจากทะเบียนความถี่หลักระหว่างประเทศได้ (Master International Frequency Register) และส่งผลให้ประเทศไทยสิ้นสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมนั้น
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »