เข้าระบบ
สมัครสมาชิก
ลงประกาศฟรี
ติดต่อเรา
Toggle navigation
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบสมาชิก
×
เข้าสู่ระบบ
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ครบเครื่องเรื่องมวยไทย วิเคราะห์ข่าวมวยไทย
ลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ฟรี
เชื่อมั่นรัฐบาลแค่ไหน รับมือเศรษฐกิจถดถอย
ผู้โพส! :
Jenny937
ดูรายละเอียดผู้โพส!
ข่าวใหม่ล่าสุด
ไฟเขียวเมื่อไหร่ จัดชิงปูนเมื่อนั้น...
รายการใกล้เคียง
ขายที่ดิน 8 ไร่ 2 อ....
ขายที่ดินเปล่า 8-2-0 ไร่ ต.คูบ...
ขายทาวน์โฮม 4 ชั้น ...
ขายทาวน์โฮม 4 ชั้น เดอะ ...
เชื่อมั่นรัฐบาลแค่ไหน รับมือเศรษฐกิจถดถอย
0 ตอบ
203 อ่าน
«
Jenny937
»เมื่อ:
09 สิงหาคม 2564, 07:53 »
การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ติดลบต่ำที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง โดยจีดีพีในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 ติดลบถึง 12.2% ถึงแม้ว่าหลังจากนั้น
เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น
ตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่ดีขึ้นเกือบอยู่ในระดับปกติ แต่การระบาดระลอกที่ 2 ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ต่อด้วยการระบาดระลอกที่ 3 นับตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีความรุนแรงมากขึ้นจนการระบาดระลอกนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมถึงวันที่ 8 ส.ค.2564 มีจำนวนถึง 727,642 คน
สถานการณ์ที่เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องทำให้รัฐบาลประกาศขยายพื้นที่กึ่งล็อกดาวน์จาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด พร้อมกับการเตรียมงบประมาณสำหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก 30,000 ล้านบาท เป็น 60,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่มีโอกาสถดถอย และทำให้บางองค์กรเริ่มปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2564 เป็นติดลบแล้ว นั่นหมายความว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยสูงมาก ซึ่งเป็นอีกประเด็นที่รัฐบาลต้องเตรียมรับมือให้ได้
หากดูประสิทธิภาพการบริหารจัดการในสถานการณ์วิกฤติของรัฐบาลอาจทำให้มีความเชื่อมั่นลดลงต่อการรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งที่ผ่านมามีการตัดสินใจที่ผิดพลาดในหลายประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะความผิดพลาดในการจัดหาวัคซีนที่หลายประเทศวางแผนอย่างเข้มข้นในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ที่จะจัดหาวัคซีนมาให้เพียงพอ ในขณะที่ประเทศไทยจัดหาวัคซีนได้ล่าช้าและปฏิเสธการพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอของหลายฝ่ายที่เสนอแนวทางการเร่งนำเข้าวัคซีน
ประเทศไทยในขณะนี้จึงตกอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลนทั้งงบประมาณดำเนินการทำให้ต้องกู้เงินมาบริหารภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งขาดแคลนวัคซีนและอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อ โดยถ้ามองย้อนไปปลายปี 2563 คงไม่มีใครคิดว่าประเทศไทยจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ดังนั้นสิ่งสำคัญประการหนึ่งในการบริหารบนสถานการณ์ฉุกเฉิน คือ สมมติฐานในกรณีเลวร้ายที่สุดอย่าเพิ่งรีบตัดออกไป เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอหากสถานการณ์ยังไม่จบ
ลำพังการนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติการระบาดระลอกใหม่นี้ดูเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญสำหรับรัฐบาลปัจจุบัน และเมื่อมาเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูงแล้วรัฐบาลจะนำพาประเทศให้พ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาการจัดหาวัคซีนที่เป็นเงื่อนไขสำคัญของการควบคุมการระบาดยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เมื่อใด รัฐบาลควรตระหนักถึงโอกาสที่ได้รับจากประชาชนแล้วใช้โอกาสที่ได้รับเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติให้ดีกว่านี้
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »